ประกาศความเป็นส่วนตัว
สำหรับผู้สมัครงานและบุคคลอื่น
ที่ผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้
บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)

เนื่องด้วย บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)(“บริษัท”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบหรือจะได้มอบไว้ให้แก่บริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านได้ทราบและเข้าใจถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (เรียกรวมว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ขอบเขตของประกาศฉบับนี้

ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเก็บรวบรวมจากการที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประกอบการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านได้โปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจถึงวิธีการ แนวทาง วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อของบริษัท

ข้อ 2. คำจำกัดความ

“ผู้สมัครงาน” หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานรายวัน พนักงานรายเดือน พนักงานโครงการ พนักงานตามสัญญาจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของบริษัทจัดหางาน (outsource) และ พนักงานอิสระ (freelance) ที่ทำงานให้แก่บริษัท แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในบริษัท หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (Personal Data) เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประกันสังคม หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขบัญชีธนาคาร ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ซึ่งบริษัทต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต

อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทำงาน      ที่อยู่อีเมล (email address) กลุ่มของบริษัท เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น

“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง “ท่าน” ในฐานะผู้สมัครงาน

ข้อ 3. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้แจ้งให้ท่านทราบในข้อ 5. และเพื่อให้ท่านรับทราบและเข้าใจถึงรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านทราบตามรายละเอียด ดังนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล

รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน

คำนำหน้านาม, ชื่อ นามสกุล, อายุ, เพศ, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, สัญชาติ, รูปถ่าย, ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้, หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ, ที่อยู่อีเมล์ (email address), หมายเลขใบอนุญาตขับขี่, ประวัติการเกณฑ์ทหาร

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน

ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ ได้แก่ น้ำหนัก ส่วนสูง

ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการทำงาน

ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน

ข้อมูลอื่นๆ

ประวัติส่วนตัว (Resume/Curriculum Vitae (CV)), ประวัติการเรียนรู้ ทักษะและความสามารถ, ใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและการทำงาน, ข้อมูลจากการทดสอบหรือการสัมภาษณ์, ข้อมูลที่บันทึกภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)

ข้อมูลบุคคลที่สาม บุคคลอ้างอิงที่ทำงานกับบริษัท, บุคคลอ้างอิง(ภายนอกบริษัท), บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน

หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิต(ถ้ามี) ที่ปรากฎอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน ดังนั้น บริษัทจึงขอให้ท่านปกปิดข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิต(ถ้ามี) ดังกล่าว และหากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลตามที่บริษัทได้แจ้งขอให้ดำเนินการ ให้ถือว่าท่านยินยอมและอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลนั้นแทนท่าน และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ

นอกจากนี้ กรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น บุคคลอ้างอิงที่ทำงานกับบริษัท, บุคคลอ้างอิง(ภายนอกบริษัท), บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน บริษัทขอให้ท่านโปรดแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อให้รับทราบประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท และอาจต้องขอความยินยอมในกรณีมีความจำเป็นจากบุคคลดังกล่าว เว้นแต่ ปรากฏฐานทางกฎหมายอื่นตามกฎหมายว่าไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมก่อน

ทั้งนี้ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ซึ่งต้องอาศัยความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์จากท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะไม่ให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลก็ได้ แต่หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัทซึ่งจำเป็นต้องได้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ครบถ้วนและถูกต้อง

อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นความจริง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และท่านจะต้องอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน โดยแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางการติดต่อที่บริษัทระบุไว้ในข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

ข้อ 4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง

จากการกรอกข้อมูลในใบสมัครงาน เอกสารแนบประกอบการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงาน การสัมภาษณ์งาน รวมถึงข้อมูลและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของท่านจากการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงาน

4.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทจัดหางาน เว็บไซต์สมัครงาน

ข้อ 5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล และเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมตามที่ระบุไว้ในข้อ 3. ตามรายละเอียดต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ

รายละเอียด

ฐานทางกฎหมาย

1. เพื่อพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน

เพื่อนำข้อมูลผู้สมัครงานมาพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน และประเมินคุณสมบัติในการจ้างงาน ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนการสมัครงานผ่านทางช่องทางดังต่อไปนี้

1) บริษัทโดยตรง (walk in)

2) สมัครงานออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือ

3) ผู้ให้บริการจัดหางาน

- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

- ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

2. เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงาน

เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมตลอดถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท

- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

- ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

- ความยินยอม (Consent)

3. เพื่อการจัดการภายในบริษัทเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน

เพื่อการจัดการภายในบริษัทเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาและคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน เช่น การส่งข้อมูลของผู้มัครงานหรือรายงานการสัมภาษณ์งานให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจคัดเลือกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนำส่งข้อมูลของผู้สมัครงานที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทให้กับแผนกที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระบวนการอื่นๆ ที่ต้องจัดเตรียมสำหรับพนักงานใหม่

- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis)

- ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

4. เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสมในอนาคต

เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อพิจารณาและติดตามในกรณีที่มีตำแหน่งงานในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน

- ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)
5. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท ได้แก่ การแลกบัตรที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) - ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

ข้อ 6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายในบริษัทและบุคคลภายนอกบริษัทเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลดังต่อไปนี้

6.1 บุคคลภายในบริษัท

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น กล่าวคือ

  1. เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล แผนกการสรรหาคัดเลือกและว่าจ้าง (Talent Acquisition) ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลตามบทบาทหน้าที่ที่รับผิดชอบ
  2. ผู้บริหารหรือผู้จัดการฝ่าย/แผนกที่ต้องการรับบุคคลเข้าทำงานและมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการรับเข้าทำงาน

6.1 บุคคลภายนอกบริษัท

  1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  2. บริษัท จัดหางาน พีอาร์ทีอาร์ จำกัด

ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้นั้น บริษัทมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและปลอดภัย เช่น การตกลงทำสัญญาที่มีเงื่อนไขให้บุคคลภายนอกมีสิทธิใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเท่านั้น, การตกลงให้ทำสัญญาการรักษาความลับ (Non-Disclosure Agreement)        เพื่อรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านเพื่อดำเนินธุรกิจ เป็นตัน

ข้อ 7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

กรณีที่มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ข้อ 8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในระยะเวลานานกว่านั้น รายละเอียดระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลปรากฎตามตามตารางด้านล่างนี้

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ

ระยะเวลาการเก็บข้อมูล

1. อ้างอิงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามข้อ 5. ซึ่งระบุอยู่ในตารางข้อ 1. ถึง 4.

เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อพิจารณาและติดตามท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน

(*ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สมัครงานได้รับคัดเลือกเข้าทำงานกับบริษัท ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนนี้จะถูกขยายออกไปให้เป็นไปตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับพนักงานและบุคคลอื่นที่พนักงานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้)

2. อ้างอิงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามข้อ 5. ในตารางข้อ 5. (เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท)

เก็บไว้ไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่บันทึกข้อมูล

ทั้งนี้ ในกรณีที่พ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็น ทางบริษัทจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ข้อ 9. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่บริษัทได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9.1 สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdrew Consent)

ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ท่านพึงได้รับจากบริษัท หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

9.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)

ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

9.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

9.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี

9.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)

ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว

9.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)

ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

9.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)

ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

9.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อ

หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบริษัทได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ทั้งนี้ กรณีที่ท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น ท่านจะต้องติดต่อมายังบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยทำคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำขอของท่านโดยไม่ชักช้า หรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ คำร้องขอใช้สิทธิใดๆ ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาจมีบางกรณีที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามคำขอของท่านโดยสมควรและโดยชอบ เช่น กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้สิทธิในการปฏิเสธคำขอดังกล่าว

ข้อ 10. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทจัดให้มีมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

ข้อ 11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทจะได้ประกาศและแสดงลงบนเว็บไซต์ของบริษัทหรือด้วยวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม

ข้อ 12. ช่องทางการติดต่อบริษัท

หากท่านมีข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือหากท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 9. หรือท่านมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) – เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

สถานที่ติดต่อ: 1054 ซอยสุขุมวิท 66/1 แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260

เบอร์โทรศัพท์: 02 856 2000 

อีเมล: dpo@jaspal.co.th

หรือ

ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)

อีเมล: hrpdpa@jaspal.co.th

ข้อ 13. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ท่านรับทราบและตกลงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น

ประกาศใช้ ณ วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567