เนื่องด้วย บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)(“บริษัท”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบหรือจะได้มอบไว้ให้แก่บริษัท ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านได้ทราบและเข้าใจถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (เรียกรวมว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเก็บรวบรวมจากการที่ท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประกอบการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงขอแนะนำให้ท่านได้โปรดอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจถึงวิธีการ แนวทาง วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อของบริษัท
“ผู้สมัครงาน” หมายถึง ผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานรายวัน พนักงานรายเดือน พนักงานโครงการ พนักงานตามสัญญาจ้าง พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของบริษัทจัดหางาน (outsource) และ พนักงานอิสระ (freelance) ที่ทำงานให้แก่บริษัท แล้วแต่กรณี ไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการโดยผู้สมัครเอง หรือเป็นการรับสมัครงานภายในบริษัท หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นใด หรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่
– ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (Personal Data) เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประกันสังคม หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี หมายเลขใบอนุญาตขับขี่ หมายเลขบัญชีธนาคาร ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ เป็นต้น
– ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน (Sensitive Personal Data) ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ซึ่งบริษัทต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต
อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) กลุ่มของบริษัท เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง “ท่าน” ในฐานะผู้สมัครงาน
บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะได้แจ้งให้ท่านทราบในข้อ 5. และเพื่อให้ท่านรับทราบและเข้าใจถึงรายละเอียดของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม บริษัทจึงขอแจ้งให้ท่านทราบตามรายละเอียด ดังนี้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคล |
---|---|
ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน |
คำนำหน้านาม, ชื่อ นามสกุล, อายุ, เพศ, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขหนังสือเดินทาง, สัญชาติ, รูปถ่าย, ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้, หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ, ที่อยู่อีเมล์ (email address), หมายเลขใบอนุญาตขับขี่, ประวัติการเกณฑ์ทหาร |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน |
ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ ได้แก่ น้ำหนัก ส่วนสูง |
ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการทำงาน |
ประวัติการศึกษา, ประวัติการทำงาน |
ข้อมูลอื่นๆ |
ประวัติส่วนตัว (Resume/Curriculum Vitae (CV)), ประวัติการเรียนรู้ ทักษะและความสามารถ, ใบอนุญาตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาและการทำงาน, ข้อมูลจากการทดสอบหรือการสัมภาษณ์, ข้อมูลที่บันทึกภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) |
ข้อมูลบุคคลที่สาม | บุคคลอ้างอิงที่ทำงานกับบริษัท, บุคคลอ้างอิง(ภายนอกบริษัท), บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน |
หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท บริษัทขอแจ้งให้ท่านทราบว่าบริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิต(ถ้ามี) ที่ปรากฎอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน ดังนั้น บริษัทจึงขอให้ท่านปกปิดข้อมูลศาสนาและหมู่โลหิต(ถ้ามี) ดังกล่าว และหากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลตามที่บริษัทได้แจ้งขอให้ดำเนินการ ให้ถือว่าท่านยินยอมและอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลนั้นแทนท่าน และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ
นอกจากนี้ กรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท เช่น บุคคลอ้างอิงที่ทำงานกับบริษัท, บุคคลอ้างอิง(ภายนอกบริษัท), บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน บริษัทขอให้ท่านโปรดแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อให้รับทราบประกาศความเป็นส่วนตัวของบริษัท และอาจต้องขอความยินยอมในกรณีมีความจำเป็นจากบุคคลดังกล่าว เว้นแต่ ปรากฏฐานทางกฎหมายอื่นตามกฎหมายว่าไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมก่อน
ทั้งนี้ ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ซึ่งต้องอาศัยความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล บริษัทจะขอความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์จากท่านโดยชัดแจ้งก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งท่านมีสิทธิที่จะไม่ให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลก็ได้ แต่หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ความยินยอมหรือเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัทซึ่งจำเป็นต้องได้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ครบถ้วนและถูกต้อง
อนึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมอบให้แก่บริษัทจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ เป็นความจริง และไม่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และท่านจะต้องอัปเดตข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน โดยแจ้งให้บริษัททราบเกี่ยวกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางการติดต่อที่บริษัทระบุไว้ในข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
4.1 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง
จากการกรอกข้อมูลในใบสมัครงาน เอกสารแนบประกอบการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงาน การสัมภาษณ์งาน รวมถึงข้อมูลและการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลของท่านจากการสรรหาบุคคลเข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือการทำกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคคลเข้าทำงาน
4.2 ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทจัดหางาน เว็บไซต์สมัครงาน
บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์ภายใต้ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล และเพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมตามที่ระบุไว้ในข้อ 3. ตามรายละเอียดต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ |
รายละเอียด |
ฐานทางกฎหมาย |
---|---|---|
1. เพื่อพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน |
เพื่อนำข้อมูลผู้สมัครงานมาพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน และประเมินคุณสมบัติในการจ้างงาน ซึ่งหมายความรวมถึงขั้นตอนการสมัครงานผ่านทางช่องทางดังต่อไปนี้ 1) บริษัทโดยตรง (walk in) 2) สมัครงานออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท และ/หรือ 3) ผู้ให้บริการจัดหางาน |
- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) - ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
2. เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงาน |
เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนการจ้างงานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น คุณสมบัติด้านวิชาชีพ ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม รวมตลอดถึงการสอบถามข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท |
- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) - ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) - ความยินยอม (Consent) |
3. เพื่อการจัดการภายในบริษัทเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาและคัดเลือกบุคคลเข้าทำงาน |
เพื่อการจัดการภายในบริษัทเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาและคัดเลือกพนักงานเข้าทำงาน เช่น การส่งข้อมูลของผู้มัครงานหรือรายงานการสัมภาษณ์งานให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจคัดเลือกหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การนำส่งข้อมูลของผู้สมัครงานที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทให้กับแผนกที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระบวนการอื่นๆ ที่ต้องจัดเตรียมสำหรับพนักงานใหม่ |
- การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) - ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
4. เพื่อพิจารณาตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสมในอนาคต |
เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อพิจารณาและติดตามในกรณีที่มีตำแหน่งงานในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน |
- ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
5. เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท | เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท ได้แก่ การแลกบัตรที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านก่อนเข้าพื้นที่สำนักงาน/สาขา รวมถึงการบันทึกภาพภายในพื้นที่ของบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) | - ความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest) |
บริษัทอาจทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายในบริษัทและบุคคลภายนอกบริษัทเท่าที่จำเป็น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยบริษัทอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลดังต่อไปนี้
6.1 บุคคลภายในบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น กล่าวคือ
6.1 บุคคลภายนอกบริษัท
ทั้งนี้ บุคคลภายนอกที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้นั้น บริษัทมีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและปลอดภัย เช่น การตกลงทำสัญญาที่มีเงื่อนไขให้บุคคลภายนอกมีสิทธิใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเท่านั้น, การตกลงให้ทำสัญญาการรักษาความลับ (Non-Disclosure Agreement) เพื่อรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากท่านเพื่อดำเนินธุรกิจ เป็นตัน
กรณีที่มีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับความคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงบริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม และประมวลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
บริษัทจะจัดเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น ยกเว้นในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวในระยะเวลานานกว่านั้น รายละเอียดระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลปรากฎตามตามตารางด้านล่างนี้
วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ |
ระยะเวลาการเก็บข้อมูล |
---|---|
1. อ้างอิงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามข้อ 5. ซึ่งระบุอยู่ในตารางข้อ 1. ถึง 4. |
เพื่อเป็นประโยชน์กับท่าน ในกรณีที่ท่านไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัทในตำแหน่งงานที่ท่านได้สมัครไว้ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เพื่อพิจารณาและติดตามท่านในกรณีที่มีตำแหน่งงานในอนาคตที่อาจเหมาะสมกับท่าน (*ทั้งนี้ กรณีที่ผู้สมัครงานได้รับคัดเลือกเข้าทำงานกับบริษัท ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนนี้จะถูกขยายออกไปให้เป็นไปตามที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัว สำหรับพนักงานและบุคคลอื่นที่พนักงานได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้) |
2. อ้างอิงวัตถุประสงค์ในการดำเนินการตามข้อ 5. ในตารางข้อ 5. (เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท) |
เก็บไว้ไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันที่บันทึกข้อมูล |
ทั้งนี้ ในกรณีที่พ้นระยะเวลาการจัดเก็บ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็น ทางบริษัทจะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ในกรณีที่บริษัทได้มีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้ ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
9.1 สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdrew Consent)
ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณางาน สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ท่านพึงได้รับจากบริษัท หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่านจึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
9.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านหากการเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิ และเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
9.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้บริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
9.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
9.5 สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
9.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
9.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)
ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อ
หากท่านมีความกังวลหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของบริษัท เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัท โดยใช้รายละเอียดการติดต่อตามข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบริษัทได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ทั้งนี้ กรณีที่ท่านมีความประสงค์จะใช้สิทธิตามที่กล่าวข้างต้น ท่านจะต้องติดต่อมายังบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในข้อ 12. ของประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยทำคำขอเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำขอของท่านโดยไม่ชักช้า หรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ คำร้องขอใช้สิทธิใดๆ ข้างต้นอาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอาจมีบางกรณีที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการได้ตามคำขอของท่านโดยสมควรและโดยชอบ เช่น กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้สิทธิในการปฏิเสธคำขอดังกล่าว
บริษัทจัดให้มีมาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และบริษัทจะทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางบริษัทจะได้ประกาศและแสดงลงบนเว็บไซต์ของบริษัทหรือด้วยวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม
หากท่านมีข้อสงสัยที่เกี่ยวข้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือหากท่านประสงค์จะใช้สิทธิตามที่ระบุไว้ในข้อ 9. หรือท่านมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ที่
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน) – เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)
สถานที่ติดต่อ: 1054 ซอยสุขุมวิท 66/1 แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร 10260
เบอร์โทรศัพท์: 02 856 2000
อีเมล: dpo@jaspal.co.th
หรือ
ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ยัสปาล จำกัด (มหาชน)
อีเมล: hrpdpa@jaspal.co.th
ท่านรับทราบและตกลงให้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทยและศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น
ประกาศใช้ ณ วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567
Jaspal Public Company Limited
1054 ซอย สุขุมวิท 66/1
แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง
กรุงเทพฯ 10260